มัจฉา
มัจฉาดำน้ำได้ลึกถึง 30 เมตรและมีผิวหนังที่เปียกชุ่มเหมือนกาว!
มัจฉาเป็นสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกที่อยู่ในอันดับ Anura และส่วนใหญ่อาศัยในแหล่งน้ำจืดทั่วโลก ตัวมันมีรูปร่างอ้วนกลมแบนราบ มีหัวขนาดใหญ่และตาโตสองข้าง มัจฉามีผิวหนังชุ่มชื้นเป็นพิเศษ ซึ่งช่วยให้มันหายใจผ่านผิวหนังได้
ลักษณะทางกายวิภาค
- ขนาด: ขนาดของมัจฉาแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ โดยทั่วไปมีขนาดตั้งแต่ 2 ถึง 15 เซนติเมตร
- สีและลวดลาย: มัจฉามีสีและลวดลายที่หลากหลายขึ้นอยู่กับสายพันธุ์และถิ่นที่อยู่อาศัย สีที่พบบ่อย ได้แก่ เขียว, น้ำตาล, เทา, และดำ
- ผิวหนัง: ผิวหนังของมัจฉาชุ่มชื้นและมีต่อมพิเศษที่หลั่งเมือกออกมา เมือกนี้ช่วยให้ผิวหนังของมัจฉาชุ่มชื้นและป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้น
ลักษณะ | คำอธิบาย |
---|---|
หัว | ใหญ่, แบน |
ตา | โต, เป็นสระบอน (bulging) |
ปาก | กว้าง, มีฟันที่ขอบปาก |
ขา | สั้น, บึกบึน |
หาง | ในตัวอ่อนเท่านั้น, หายไปเมื่อโตขึ้น |
วิถีชีวิตและพฤติกรรม
มัจฉามักอาศัยอยู่ในแหล่งน้ำจืด เช่น หนอง, คลอง, ทะเลสาบ และลำธาร มัจฉาเป็นสัตว์ที่เคลื่อนไหวช้าและชอบอยู่ใกล้พื้นน้ำ
-
การล่าเหยื่อ: มัจฉาเป็นสัตว์กินเนื้อ จะใช้ลิ้นที่เหนียวหนึบของมันในการจับสัตว์เล็กๆ เช่น แมลง, ปลาขนาดเล็ก, ตัวอ่อนของกบ และตัวอ่อนของสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ
-
การป้องกันตัว: มัจฉามีหลายวิธีในการป้องกันตัวจากศัตรู เช่น
- การหลบซ่อน: มัจฉาจะ ẩnตัวในร่องหิน, ต้นไม้, หรือใยเถาวัลย์
- การสร้างพิษ: บางชนิดของมัจฉาสามารถหลั่งสารพิษออกมาจากผิวหนังเพื่อป้องกันศัตรู
-
การสืบพันธุ์: มัจฉาจะวางไข่เป็นก้อนๆ ในน้ำ ตัวอ่อนของมัจฉาเรียกว่า “ตัวอ่อน” หรือ " головаเชือก" (tadpole) ตัวอ่อนมีหางและเหงือก และอาศัยอยู่ในน้ำจนกว่าจะเจริญเติบโตเป็นกบ
ความสำคัญทางนิเวศวิทยา
มัจฉามีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศ มีหน้าที่ในการควบคุมจำนวนประชากรสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังและย่อยสลายซากพืช
การอนุรักษ์
บางชนิดของมัจฉากำลังเผชิญกับความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์เนื่องจากการทำลายถิ่นที่อยู่อาศัย และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การอนุรักษ์มัจฉาเป็นสิ่งสำคัญเพื่อช่วยรักษาสมดุลของระบบนิเวศ
มัจฉานับได้ว่าเป็นสัตว์ที่น่าสนใจและมีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศโลก ด้วยความสามารถในการดำน้ำลึก, ผิวหนังชุ่มชื้น และวิธีการป้องกันตัวที่หลากหลาย มัจฉาเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความแปลกประหลาดและความอัศจรรย์ของธรรมชาติ